มะตูม จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในพืชสมุนไพรที่คนไทยต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี เรานิยมนำผลของ มะตูม มาทำเป็นเครื่องดื่มผสมกับน้ำตาล เป็นเครื่องดื่มที่มีรสชาติหวานหอม ช่วยดับกระหายได้เป็นอย่างดี
อีกทั้งยังมีคุณค่าทางยาที่ช่วยบำรุงร่างกาย ไม่เพียงแค่ส่วนของผลเท่านั้น แต่ส่วนอื่นของต้นยังสามารถนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรที่มีประโยชน์ไม่น้อยเลย
ลักษณะของต้นมะตูม
มะตูม มีชื่อสามัญว่า Beal ชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Aegle marmelos (L.) Corrêa จัดอยู่ในวงศ์เดียวกันกับส้ม สำหรับในภาคเหนือเรียก มะตูม ว่า มะปิน ภาคอีสานเรียกว่า หมากตูม ภาคใต้เรียกว่า กะทันตาเถร ตุ่มตัง หรือตูม
ลักษณะของสมุนไพรชนิดนี้เป็นไม้ผลยืนต้น เติบโตในแถบพื้นเมืองบริเวณป่าดิบและตามเนินเขา พบมาในที่ราบของอินเดียตอนกลางและตอนใต้ ปากีสถาน บังกลาเทศ พม่า และเวียดนาม จนถูกนำมาเพาะปลูกในประเทศไทยในเวลาต่อมา และแพร่หลายไปทั่วทุกภาค กลายเป็นพืชที่ใครๆ ก็รู้จัก โดยมีลักษณะทางพฤกษศาสตร์ดังนี้
- ส่วนของลำต้น มีความสูงประมาณ 18 เมตร เปลือกด้านนกจะเป็นสีเทา มีความเรียบ มองเห็นร่องตื้น จัดอยู่ในไม้เนื้อแข็ง สีขาวแกมเหลือง มีกลิ่นหอม
โคนต้น และกิ่งก้านจะมีหนามที่ยาวแหลม มีความแข็ง แทงตัวออกมาในลักษณะหนามเดี่ยวหรือหนามคู่ตามกิ่ง - ลักษณะของใบ ประกอบกันเหมือนขนนก ใบย่อยคล้ายรูปไขหรือรูปหอกด้วยกัน 3 ใบ คล้ายกับตรีศูลของพระศิวะ ใบปลายจะมีขนาดกว้าง 3-6 เซนติเมตร ยาวประมาณ 4-12 เซนติเมตร โคนใบจะสอบมน ส่วนปลายใบแหลม เมื่อสัมผัสเนื้อใบจะรู้สึกได้ถึงความบาง เกลี้ยง พบเส้นแขนงใบราว 6-10 คู่ ปลายเส้นแขนงจะจรดกันไม่ถึงขอบใบ มีเส้นใบย่อยกระจายตัวอยู่มองเห็นไม่ชัด หลังใบเป็นสีเขียวเข้มและมัน ท้องใบจะเป็นสีขาว การออกใบจะออกเป็นเกลียววนรอบกิ่ง ใบมีกลิ่นหอม เมื่อนำไปส่องแดดจะมองเห็นต่อมน้ำมันสีใสกระจายตัวอยู่ด้านใน
- ดอกเป็นสีขาว ขนาดเล็ก มักออกดอกในช่วงเดือนมีนาคม ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม ดอกจะออกเป็นช่อชนิดสมบูรณ์เพศ จะพบได้ที่ซอกใบหรือปลายกิ่ง มีดอกย่อยสีขาวอมเขียว มีกลิ่นหอมที่โชยไกลจากต้น
- ผลมะตูม จะมีเปลือกแข็งหุ้มด้านนอก รูปทรงเหมือนไข่หรือกลม ผลอ่อนจะมีเปลือกสีเขียวแข็ง เมื่อแก่จะเป็นสีเขียวอมเหลือง เส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 5-15 เซนติเมตร บางผลเปลือกด้านนอกมีความแข็งมาก ไม่สามารถแกะออกด้วยมือหรือมีดได้ ต้องใช้ค้อนทุบเพื่อเอาเนื้อด้านในออกมา
- ส่วนของเนื้อด้านใน เป็นสีส้มเหลือง มีความนิ่ม รสชาติหวาน มีกลิ่นหอม และมีน้ำเหนียวข้นด้านในคล้ายยาง ภายในประกอบด้วยเมล็ดจำนวนมาก แทรกอยู่ตามเนื้อ เมล็ดมีขนปกคลุมหนา เมล็ดจะเป็นที่นิยมของกระรอกและสัตว์ป่า