ถ้าอยากมีร่างกายฟิตแบบสุดๆ ก็ต้องเริ่มเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันนี้ ลองทำดูแล้วรับรองลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งและโรคอื่นๆ หุ่นฟิตแอนด์เฟิร์ม แถมอายุยืนยาวมีความสุขสุขภาพแข็งแรง สุขภาพนี่แหละเรื่องสำคัญอันดับหนึ่งของชีวิตคนเรา รู้แล้วจะรออะไร? รีบลุกไปเปลี่ยนตัวเอง แล้วจะสุขภาพดีในเร็ววัน ไม่สำคัญว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ อ้วน ผอม สูง ต่ำ ดำ ขาว สุขภาพปัจจุบันจะดีหรือแย่ก็ตาม
ดูแลสุขภาพโดยรวม
1. นอนหลับให้เพียงพอ
จะแข็งแรงสุขภาพดีได้ ต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หรือก็คือ 7 – 9 ชั่วโมงต่อวันสำหรับผู้ใหญ่ 8 – 10 ชั่วโมงต่อวันสำหรับวัยรุ่น และ 9 – 11 ชั่วโมงต่อวันสำหรับเด็ก ถ้านอนหลับเพียงพอ ระหว่างวันจะสดชื่น
ไม่ง่วงเหงาหาวนอน ไม่จำเป็นต้องดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและเครื่องดื่มชูกำลังอุดมน้ำตาล ตอนนอนหลับนี่แหละที่ร่างกายและจิตใจได้ซ่อมแซม ขับพิษ และฟื้นฟูตัวเอง ถ้าเป็นเด็กที่ต้องไปโรงเรียนแต่เช้า ก็ต้องรีบเข้านอนแต่หัวค่ำ
-แต่อย่าถึงกับนอนทั้งวัน เพราะถ้านอนเยอะเกินไปก็อันตรายพอๆ กับนอนไม่พอ ยกเว้นว่าถ้าอดนอนมา 1 วันเต็มๆ จะนอนชดเชยยาวๆ ก็ได้ไม่ว่ากัน แต่ถ้าตามปกติควรนอนไม่เกินจำนวนชั่วโมงที่แนะนำในแต่ละช่วงวัย
2. กินอาหารดีมีประโยชน์ โดยกินให้ครบหมู่ ร่างกายจะได้สารอาหารที่จำเป็น
อาหารดีมีประโยชน์ ก็คือต้องมีคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ผักผลไม้ และไขมันในปริมาณที่เหมาะสม ถ้าเป็นคาร์โบไฮเดรต ให้เลือกโฮลเกรนหรือธัญพืชเต็มเมล็ด
ส่วนแหล่งโปรตีนที่ดีคือเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ ปลา ไข่ และถั่ว นอกจากนี้พยายามกินผักผลไม้ให้ได้อย่างน้อย 5 – 9 servings (หน่วยบริโภค) ต่อวัน ไขมันในปริมาณที่เหมาะสมก็จำเป็น เพื่อให้ร่างกายทำงานได้ครบสมบูรณ์ ไขมันดีที่แนะนำก็เช่น น้ำมันปลา น้ำมันมะกอก และน้ำมันมะพร้าว
3. ดื่มน้ำเยอะๆ
น้ำก็เปรียบเหมือนเชื้อเพลิงที่ทำให้ร่างกายคุณกระฉับกระเฉงตลอดวัน พยายามดื่มน้ำให้ได้ 8 แก้ว (แก้วละ 8 ออนซ์) ต่อวัน จะช่วยเติมพลังและความสดชื่น ถ้าดื่มน้ำไม่พอระวังสิวบุก ปวดหัว และเกิดภาวะขาดน้ำ แค่ทำตามนี้ให้ได้ คุณก็จะสุขภาพแข็งแรงแล้ว
4. ไปหาหมอตา (ophthalmologist หรือก็คือจักษุแพทย์นั่นเอง)
ถ้าตาสั้น ตายาว หรือตาเอียง ก็ต้องใส่แว่น ถ้าไม่ชอบ ก็ให้เปลี่ยนเป็นคอนแทคเลนส์แทน หรืออีกทีคือผ่าตัดปรับสายตา ถ้าใช้ยาหยอดตาหรือน้ำตาเทียม ก็ต้องใช้ให้ถูกชนิดและถูกวิธี ปรึกษาคุณหมอจะดีที่สุด เวลาออกแดดอย่าลืมใส่แว่นกันแดดด้วย
5. ตรวจสุขภาพเป็นประจำ
ฉีดวัคซีนต่างๆ ให้ครบตามกำหนดหรือตามสภาพร่างกาย กินยาตามหมอสั่ง ทดสอบภูมิแพ้ ตรวจเลือดเช็คระดับคอเลสเตอรอล สรุปคือให้ตรวจเช็คสุขภาพเป็นประจำ ถ้ามีอาการหรือโรคอะไรก็ให้รักษาไปตามนั้น
ฟิตร่างกาย
1. ออกกำลังกายทุกวัน แค่นิดเดียวก็ยังดี
นอกจากทำให้รู้สึกสดชื่นและดูดีขึ้นแล้ว ยังทำให้มีพลังทำอะไรต่ออะไรในแต่ละวันด้วย เขาวิจัยกันมาแล้วว่าถ้าออกกำลังกายเป็นประจำ จะทำให้สดชื่นขึ้นเพราะต่อม pituitary (ต่อมใต้สมอง) และไฮโปทาลามัส (hypothalamus) หลั่งสารเอนดอร์ฟินออกมาตอนที่คุณออกกำลังกาย เลยรู้สึกดีมีความสุข
การเดินนี่แหละวิธีออกกำลังกายที่ง่ายแต่ดี ใครบ้านใกล้หน่อย ก็ลองเดินไปทำงานหรือไปเรียนดู แต่ถ้าบ้านไกล ก็ให้จอดรถไกลกว่าเดิม แล้วเดินไปจนถึงจุดหมายปลายทาง รวมถึงลงจากรถเมล์หรือรถไฟฟ้าก่อนจุดหมาย 1 ป้าย/สถานี และใช้บันไดแทนลิฟท์
2. ยืดเหยียด
จะทำให้สบายตัวสุดๆ! จะยืดเหยียดหลังตื่นนอน หรือหลังออกกำลังกายก็ไม่ว่ากัน เป็นการบริหารกล้ามเนื้อแบบง่ายๆ ที่นอกจากจะใช้วอร์มร่างกายแล้วยังทำให้คล่องตัวขึ้นด้วย ถ้าคุณยืดเหยียดเป็นประจำ จะตัวอ่อน ลดอาการบาดเจ็บ แถมทำให้วิ่งได้นานขึ้น ร่างกายแข็งแรงขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
3. วิ่งและจ็อกกิ้ง
ไม่ต้องถึงขนาดวิ่ง 5 – 10 กม. ทุกเช้าก็ได้ ขอแค่ให้ได้วิ่งหรือจ็อกกิ้งแบบไม่เหนื่อยเกินไป ประมาณวันละ 10 นาทีก็ทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ให้วิ่งวันละ 10 นาที อาทิตย์ละ 3 – 5 วัน กล้ามเนื้อจะได้แข็งแรง ฟิตแอนด์เฟิร์ม
อย่า โหมวิ่งทีละเป็นชั่วโมง แล้วอยู่ๆ ก็เลิกวิ่งแล้วนั่งแช่ต่อไปอีกเป็นชั่วโมง แบบนั้นตะคริวกินแน่นอน วันรุ่งขึ้นอาจถึงขั้นเดินไม่ไหวเลย พอใกล้จะเลิกวิ่งให้วิ่งเหยาะๆ จนกระทั่งเดินช้าๆ หายใจเข้า-ออกลึกๆ ถ้าเป็นนักเรียน เริ่มวิ่งไปสักพักเดี๋ยวได้เกรด 4 วิชาพละแน่นอน แต่ถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็จะแข็งแรงอย่าบอกใคร
4. ท้าทายตัวเองหน่อย
ถ้าปกติวิดพื้นได้อย่างมาก 10 ครั้ง ก็ลองเพิ่มเป็น 12 ครั้งดู! ท้าทายขีดจำกัดตัวเองนิดๆ หน่อยๆ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรง
5. ทำอะไรตามใจอยาก
เล่นกับหมาแมว ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน วิ่งมาราธอน หรือจะตามกรี๊ดวงเกาหลีก็แล้วแต่ ขอแค่ทำอะไรที่ชอบ ทำแล้วอารมณ์ดี ก็มีความสุขแล้ว
อย่างถ้าเจอเรื่องแย่ๆ ที่ออฟฟิศหรือที่โรงเรียนมา เลิกเรียนก็ไปเล่นบาสให้เต็มคราบ หรือเลิกงานเข้ายิมต่อยมวยระบายอารมณ์ก็ได้ นอกจากได้ความสนุกแล้ว ยังได้อยู่กับตัวเอง เป็นตัวเองอย่างที่ไม่ต้องเสแสร้ง ลองดู
มองโลกในแง่ดี
1. รักตัวเอง
เหนือฟ้ายังมีฟ้า ถึงคุณเก่งเรื่องหนึ่งแล้ว ก็ยังมีใครที่เก่งกว่าคุณเสมอ เพราะงั้นอย่าเสียเวลาไปเปรียบเทียบตัวเองกับใครเลย หาอะไรที่ชอบทำ แล้วทำได้ดี เท่านี้ก็พอ
2. ยิ้มและหัวเราะบ่อยๆ
จะได้อารมณ์ดี แถมดูอ่อนกว่าวัย เขาวิจัยกันมาแล้ว ว่าหัวเราะเยอะๆ ทำให้สุขภาพแข็งแรง
3. ทำตัวคูลๆ
คูลในที่นี้คือเป็นคนสบายๆ อย่าไปซีเรียสและซีเครียด พยายามปล่อยวาง เปิดรับความเห็นของคนอื่น ลองทำอะไรใหม่ๆ
พบเจอประเพณีวัฒนธรรมที่แตกต่างบ้าง ลองกินอะไรที่ไม่เคยกิน ทำอะไรที่ไม่คิดว่าตัวเองจะทำ บางทีอาจได้รู้จักตัวเองมากขึ้น
4. อยู่เฉยๆ พักผ่อนหย่อนใจ
ถ้าลองได้นั่งๆ นอนๆ ในห้องมืดๆ เงียบสงบคนเดียวสัก 10 นาที จะช่วยให้หัวโล่งขึ้นเยอะ อาจจะลองนั่งสมาธิ พิจารณาจิตของตัวเองดู
ตัดความสนใจรอบด้านออกไปให้หมด แต่ถ้าแค่อยากอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร ก็หลับตาหายใจเข้า-ออกลึกๆ ไป รับรองจะรู้สึกผ่อนคลายสบายใจขึ้นได้ตลอดวัน ให้ทำแบบนี้ 1 – 2 ครั้งต่อวัน สุขภาพจิตและสุขภาพกายจะดีขึ้นไม่รู้ตัว
5. ทำอะไรให้สำเร็จสักอย่าง
จะสะใจและภูมิใจน่าดู อาจจะร้องเพลง เล่นดนตรี เล่นกีฬา หรือหาโอกาสแสดงความสามารถเฉพาะตัวให้คนอื่นเขาได้ทึ่งกัน คุณเองก็จะรู้สึกมีความสุข สนุกสนาน แถมได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วย
เคล็ดลับ
- หลอกสมองให้เข้าใจว่าเมื่อคืนนอนหลับเต็มตื่น ก็ช่วยให้คิดอะไรคล่องแคล่วว่องไวขึ้น
- นั่งสมาธิฝึกจิตใจ เล่นโยคะ หรือออกไปเดินเล่นสักชั่วโมง และอ่านหนังสือทุกวัน ทำอะไรก็ได้ให้ประสบความสำเร็จ จะเรื่องเล็กแค่ไหนก็ไม่มีปัญหา ทำได้แล้วจะทำให้คุณคิดบวก พฤติกรรมและสุขภาพกายใจโดยรวมเลยดีไปด้วย
- ทำตามที่หมอสั่ง ถ้าคุณน้ำหนักเกินเกณฑ์ไปเป็น 10 – 20 กก. มีโรคประจำตัวหรือโรคเรื้อรัง อายุเกือบจะ 100 ปีอยู่แล้ว เป็นโรคซึมเศร้า หรืออะไรที่ใกล้เคียง จะให้สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์เต็มร้อยก็คงยาก แต่ถ้าหมั่นตรวจเช็คสุขภาพ และทำตามที่คุณหมอแนะนำ สุขภาพก็จะดีกว่าคนที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย หมอไม่หา ยาไม่กินอยู่แล้ว
คำเตือน
- อะไรทำร้ายสุขภาพต้องเลิกให้หมด เช่น เลิกสูบบุหรี่ เลิกดื่มจัด เลิกเสพยา มีอะไรกับใครต้องป้องกัน (อย่า one night stand) พวกนี้เสี่ยงทำสุขภาพเสียทั้งนั้น
- ใครก็เปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองไม่ได้ในวันเดียว เพราะงั้นต้องมุ่งมั่น อดทน อย่าล้มเลิก